ที่มาและจุดเริ่มต้นของปัญหา


ในขณะที่หลายคนกำลังให้ความสำคัญกับปัญหาการเมืองไทยแต่ปัญหาอีกประการที่หลายคนละเลยไปที่สร้างความรุนแรงในสังคม  ไม่แพ้ปัญหาการเมืองไทยนั่นก็คือ ปัญหายาเสพติด ปัญหายาเสพติดนับเป็นปัญหา
สังคมที่มีความร้ายแรงระดับชาติ  ทุกสังคมชุมชนต่างได้รับผลกระทบจากปัญหายาเสพติด ในทุกวันนี้คนจำนวนมากกำลังเผชิญกับปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดในสังคมไทย แม้จะได้มีมาตรการป้องกันและปราบปรามผู้ลักลอบจำหน่ายและเสพยาเสพติด แต่ก็ยังไม่สามารถขจัดยาเสพติดให้หมดไปได้ เนื่องจากเป็นขบวนการที่มีความซับซ้อน นับวันปัญหายาเสพติดยิ่งทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณ
กล่าวได้ว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาสำคัญยิ่งของประเทศไทย เนื่องจากเป็นปัญหาที่ส่งผลกระทบต่อปัญหาอื่นๆ มากมายในประเทศ  ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยได้มีการเปลี่ยนแปลง และขยายตัวมากขึ้น จากผลของการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองเศรษฐกิจ สังคมและเทคโนโลยี การพัฒนาทางเศรษฐกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้โครงสร้างทางสังคมเปลี่ยนแปลง ในลักษณะที่ขาดพลังและขาดความสมดุลในการพัฒนา สถาบันหลักทางสังคมหลายสถาบันเกิดความอ่อนแอ เป็นช่องว่างทำให้ปัญหายาเสพติดแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วและกว้างขวางมากขึ้น ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการค้ายาเสพติดไม่ว่าจะเป็นนายทุน ผู้ผลิต ผู้ค้า ผู้นำเข้าและส่งออกยาเสพติด อาศัยผลพวงจากการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนำยาเสพติดทั้งที่มีอยู่เดิม และชนิดใหม่เข้ามาเผยแพร่ในหมู่ประชาชนในแต่ละกลุ่ม ซึ่งเป็นทรัพยากรบุคคลที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ



  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

สภาพปัญหาในปัจจุบัน

   สถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติด

        พื้นที่หลักในการลักลอบนำเข้ายาเสพติดยังคงอยู่ใน  3 จังหวัดชายแดนภาคเหนือ”  พื้นที่นำเข้ายาเสพติด ชายแดนภาคเหนือยังคงเป็นพื้นที่ที่มีสัดส่วนการลักลอบนำเข้ายาเสพติดสูงที่สุดปรา กฏว่าช่วงนี้มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดที่สำคัญ คือ ยาบ้า และไอซ์ ในขณะที่ช่วงที่ผ่านมามีการลักลอบนำเข้าหลากหลายตัวยามากกว่า โดยยาบ้าที่ลักลอบนำเข้าชายแดนภาคเหนือสูงถึงร้อยละ  98.0 ของทั้งประเทศ  เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน ที่มีการลักลอบนำเข้ายาบ้าเพียงร้อยละ 24.8 ของทั้งประเทศ โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้ายาบ้าในพื้นที่ 3 จชน. สูงถึงร้อยละ   97.9 ของทั้งประเทศ  และนำเข้าไอซ์ทางชายแดนภาคเหนือ สูงถึงร้อยละ 64.0 ชายแดนภาคเหนือสูงถึงร้อยละ   98.0  ของทั้งประ เทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่มีการลักลอบนำเข้ายาบ้าเพียงร้อยละ  24.8 ของทั้งประเทศ  โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้ายาบ้าในพื้นที่ 3 จชน. สูงถึงร้อยละ 97.9 ของทั้งประเทศ และนำเข้าไอซ์ทางชายแดนภาคเหนือสูงถึงร้อยละ 64.0
           พื้นที่ที่มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในช่วงนี้ ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย)
จ.เชียงใหม่  (อ.ฝาง) จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมือง) จ.ตาก (อ.แม่สอด) จ.นครพนม (อ.ธาตุพนม 
อ.บ้านแพง)  จ.เลย
(อ.เชียงคาน) จ.ภูเก็ต
(อ.ถลาง) จ.สงขลา
(อ.สะเดา) และท่าอากาศ
ยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทร
ปราการ ซึ่งส่วนใหญ จะเป็นพื้นที่เดิม ยกเว้น จ.ภูเก็ต (อ.ถลาง) และ จ.สงขลา (อ.สะเดา)

   นอกจากพื้นที่ชายแดนที่มีการจับกุม  การลักลอบนำเข้ายาเสพติดแล้วยังมีพื้นที่ชายแดนภาคเหนือที่มีการข่าวระบุว่า มีการติดต่อระหว่างนักค้าชาวไทยกับนักค้าประเทศเพื่อนบ้านในการซื้อขายและ ลักลอบนำเข้ายาเสพติดคือ พื้นที่ อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ และ อ.สองแคว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ซึ่งทั้ง พื้นที่ ที่ผ่านมาไม่ค่อยปรากฏข่าวการจับกุม

              “ยาเสพติดที่มีการลักลอบนำเข้ามีปริมาณเพิ่มขึ้น”  
        เมื่อเปรียบเทียบปริมาณการนำเข้าในช่วงนี้กับช่วงเวลาที่ผ่านมาพบว่า  ยาบ้า  กัญชา  พืชกระท่อม  และไอซ์  มีปริมาณการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณของยาบ้ามีจำนวน 1,085,678 เม็ด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนเมษายน   ที่มีจำนวน 201,446 เม็ดหรือเพิ่มขึ้นกว่า  เท่า กัญชามีจำนวน 630 ก.ก. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีจำนวน 410 ก.ก. พืชกระท่อมจำนวน 110 ก.ก. ซึ่งในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาไม่มีการนำเข้าและไอซ์ จำนวน 39.1 ก.ก. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีจำนวน 9.4 ก.ก.
     - ยาบ้า มีการลักลอบนำเข้าในพื้นที่ อ.แม่สาย อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน อ.แม่สอด จ.ตาก อ.บ้านแพง จ.นครพนม และ จ.เลย ซึ่งพื้นที่ที่มีการลักลอบนำเข้าในช่วงนี้จะเหมือนกับช่วงเวลาที่ผ่านมา
       -  กัญชา นำเข้าที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม และ อ.เชียงคาน จ.เลย ซึ่งในช่วงผ่านมาไม่มีการ
นำเข้ากัญชาในพื้นที่ จ.เลย
       -  ยางกัญชา นำเข้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
   - ไอซ์ นำเข้าที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
       -  กระท่อม นำเข้าที่ อ.สะเดา จ.สงขลา โดยเฉพาะที่ด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์
       -  โคเคน นำเข้าที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จ.ภูเก็ต

        ในช่วงที่รัฐบาลไทยได้มีนโยบายปราบปรามยาเสพติด  ตามแผนปฏิบัติการเร่งรัด เดือน มีผลทำให้ผู้ค้าและขบวนการลำเลียงบางพื้นที่หยุดเคลื่อนไหวลงชั่วคราว แต่ในปัจจุบันสถานการณ์ยาเสพติด  เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวเช่นเดิมประกอบกับกลุ่มผลิตยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน  โดยเฉพาะกลุ่มว้าพยายามที่จะเร่งระบายยาเสพติดให้ได้มากที่สุด  ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง  เพราะไม่แน่ใจในนโยบายของรัฐบาลใหม่  จึงทำให้ปริมาณยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามีปริมาณเพิ่มขึ้น





นอกจากการลักลอบนำเข้ายาเสพติดทางพื้นที่ชายแดนแล้ว ยังพบการนำเข้าที่ท่าอากาศยานทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยที่มีการนำเข้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำนวน 7 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมาคือเดือนมีนาคม 3 ครั้งและเมษายน 5 ครั้ง กลุ่มชาวต่างชาติที่ลักลอบนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่
  
 เ ค รือ ข่า ย นัก ค้า ช า วอิหร่าน จากการดำเนินการอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ในช่วปลาย ปีที่ผ่านมาทำให้ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2554 ไม่ปรากฏการจับกุมผู้ต้องหาชาวอิหร่านที่ลักลอบนำเข้ายาเสพติด จนกระทั่งเดือนเมษายนจึงเริ่มปรากฏการจับกุมอีกครั้งหนึ่ง ในเดือนพฤษภาคมมีการจับกุมชาวอิหร่านลักลอบนำเข้าไอซ์ จำนวน 5 คดี ซึ่งนักค้าชาวอิหร่านดังกล่าวจะเดินทางมาจากตะวันออกกลาง คือประเทศกาตาร์ คูเวต และซีเรีย โดยลักษณะการซุกซ่อนจะมีการบรรจุในซองพลาสติกแบบฟองน้ำ  แล้วพันทับด้วยกระดาษคาร์บอน โดยจะซุกซ่อนมาพร้อมกับกระเป๋าสะพายหลัง




ซึ่งมีปริมาณของกลางเฉลี่ย 2.79 ก.ก./คดีกรณีการจับกุมเมื่อวันที่  21 พฤษภาคม 2554  จับกุมนักค้าชาวอิหร่าน 2 คน ซึ่งเดินทางมาจากประเทศซีเรีย ของกลางไอซ์ 1,210 กรัมและ 2,660 กรัม โดยทั้ง 2 รายของกลางซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทาง       
      เครือข่ายนักค้าชาวเนปาล ลักลอบนำเข้ายางกัญชา 8 ก.ก. เดินทางมาจากเมืองกัลกัตตาประเทศอินเดียและจะต่อเครื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยซุกซ่อนของกลางในกระเป๋าสัมภาระที่ช่องลับบริเวณพื้นและฝากระเป๋าโดยการลักลอบนำเข้ายางกัญชา ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็นชาวเนปาลพื้นที่ปลายทางเท่าที่ได้ข้อมูลจากผู้ต้องหาจะเป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว เช่น เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี

          เครือข่ายนักค้าชาวเปรู  ลักลอบนำเข้าโคเคน 1,180 กรัม เดินทางมาจากเมืองเซาเปาโลประเทศบราซิล วีธีการลักลอบนำเข้าคือกลืนโคเคนลงท้องซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจับกุมนักค้าชาวเปรูที่ลักลอบนำเข้าโคเคน  นับตั้งแต่ปี 2550  เป็นต้นมา
             ส่วนการนำเข้าที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต  มีการจับกุม  2 ครั้ง  โดยเป็นนักค้ายาเสพติด
        เครือข่ายอเมริกาใต้  ลักลอบขนโคเคน เดินทางมาจากประเทศแถบอเมริกาใต้ ซึ่งปริมาณของกลางมีจำนวนมาก เช่นกรณีวันที่  9 พฤษภาคม 2554 จับกุมชาวสวิตเซอร์แลนด์  เดินทางมาจากประเทศโบลิเวียลักลอบนำเข้าโคเคน  4 ก.ก.โดยซุกซ่อนอยู่ในขอบกระเป๋าเดินทาง และกรณีวันที่  10 พฤษภาคม 2554 ชปส.สภ.เมืองภูเก็ต จับกุมหญิงไทย 1 คน ลักลอบขนโคเคน 2 ก.ก. เดินทางมาจากประเทศบราซิลโดยซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายไมค์เพื่อนชาวต่างชาติ ผิวดำ ซึ่งรู้จักกันมาประมาณ  5-6 เดือน ให้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศบราซิล โดยนายไมค์ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ทั้งหมด วันเดินทางกลับผู้ต้องหาได้เดินทางไปยังสนามบินเซาเปาโล โดยไม่มีการนำกระเป๋าเสื้อผ้าติดตัวไป เมื่อไปถึงสนามบินมีเพื่อนของนายไมค์ มาพบมอบตั๋วเครื่องบินและกระเป๋าเดินทางให้

       ประเทศไทยประสบกับปัญหายาเสพติดทั้งในด้านการเป็นพื้นที่ผลิต การเป็นพื้นที่การค้า การเป็นพื้นที่แพร่ระบาด และการเป็นทางผ่านยาเสพติด โดยมีตัวยาหลักที่ประสบปัญหาคือ ฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยาบ้า สารระเหย โคเคน เอ็คซ์ตาซี่ และสารเสพติดประเภทวัตถุออกฤทธิ์บางชนิด ยกตัวอย่างเช่น


  การเป็นพื้นที่ผลิต


        เนื่องจากประเทศไทย มีส่วนที่ติดกับพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดที่สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง จึงทำให้ไทยมีส่วนในการผลิตยาเสพติดประเภทฝิ่น และเฮโรอีน ซึ่งผลิตมากในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ  นอกจากนั้นแล้ว ในปัจจุบันยังมีการผลิตยาบ้าในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำด้วย ยาเสพติดที่มีการผลิตในประเทศไทยอีกชนิดหนึ่ง คือ กัญชา ซึ่งมีมากในภาคอีสาน อย่างไรก็ตาม สำหรับการเป็นแหล่งผลิตของประเทศไทยนั้นในปัจจุบันได้ลดปริมาณลงอย่างมาก โดยเฉพาะฝิ่น เฮโรอีน และกัญชาจนอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ในส่วนของการผลิตยาบ้าได้มีการย้ายแหล่งผลิตไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่

  

  การเป็นพื้นที่การค้า

           ประเทศไทยมีการค้ายาเสพติดที่สำคัญ 3 ชนิด คือ การค้าเฮโรอีน การค้ากัญชา การค้ายาบ้า

     - การค้าเฮโรอีน กระจายอยู่บริเวณพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย บริเวณที่ติดกับสามเหลี่ยมทองคำ พื้นที่ กทม. ภาคใต้ และข่ายงานต่างประเทศ ซึ่งเชื่อมโยงกับข่ายงานภายในประเทศ รวมทั้งชนกลุ่มน้อยในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ เฮโรอีนส่วนใหญ่ จะถูกลำเลียงไปยังต่างประเทศ แต่บางส่วนจำหน่ายในตลาดภายในประเทศไทย ในปัจจุบัน เครือข่ายการค้าเฮโรอีน ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและทำลายลงได้หลายเครือข่าย บางกลุ่มหยุดดำเนินการ บางกลุ่มไปค้ายาบ้าแทน

        - การค้ากัญชา อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กทม. ภาคใต้พื้นที่ดำเนินการส่วนใหญ่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กัญชาที่รวบรวมได้จะส่งออกไปต่างประเทศเป็นหลักปัจจุบันกล่าวได้ว่าการค้ากัญชาลดน้อยลงมาก กลุ่มผู้ค้าจะไปดำเนินการในประเทศเพื่อนบ้าน การค้าในประเทศส่วนใหญ่เพื่อใช้เสพภายในประเทศ  

         - การค้ายาบ้า ยาบ้าได้แพร่กระจายอยู่ในทุกภูมิภาค ผู้ค้ามีกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆตั้งแต่ระดับรายใหญ่ ระดับกลางและระดับย่อยในพื้นที่แพร่ระบาด เครือข่ายการค้ายาบ้า ไม่มีการจัดองค์กรที่ชัดเจนเหมือนกับเฮโรอีนและกัญชา แม้แต่นักค้ารายย่อยบางครั้งก็สามารถไปจัดหายาเสพติดจากพื้นที่ผลิต บริเวณสามเหลี่ยมทองคำครั้งละเป็นปริมาณมากได้

  

  การเป็นพื้นที่แพร่ระบาด

           ยาเสพติดที่แพร่ระบาดในประเทศไทย ประกอบด้วย ฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยาบ้า สารระเหย โคเคน ยาอี และวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทบางชนิด เช่น จำพวกยานอนหลับอย่างไรก็ตาม กล่าวสำหรับการแพร่ระบาดแล้ว ตัวยาหลักคือ ฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยาบ้า สารระเหย โคเคน เอ็คซ์ตาซี่ ยาเค โดยฝิ่นและเฮโรอีน เคยเป็นยาเสพติดที่แพร่ระบาดรุนแรงในอดีต แต่ปัจจุบันลดระดับลง ฝิ่นคงมีแพร่ระบาดเฉพาะกลุ่มชาวเขา เฮโรอีนแพร่ระบาดในกลุ่มเสพเดิม ตัวยาที่แพร่ระบาดมาก และมีปัญหาในระดับรุนแรง คือ ยาบ้า ซึ่งแพร่กระจายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน นักเรียนนักศึกษา สำหรับโคเคน เอ็คซ์ตาซี่ และยาเค การแพร่ระบาดจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มเยาวชน ผู้ใช้ในสถานบันเทิง และกลุ่มวัยรุ่มที่ฐานะดี ส่วนสารระเหย จะแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กนอกสถานศึกษา ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

  

  การเป็นทางผ่านยาเสพติด

           การที่ประเทศไทยมีส่วนที่ติดกับสามเหลี่ยมทองคำ และการคมนาคมภายในประเทศมีความสะดวก โดยเฉพาะการขนส่งทางบกและทางอากาศจึงมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ทั้งที่ภายในประเทศและไปต่างประเทศ โดยเฉพาะการลักลอบลำเลียงเฮโรอีนไปต่างประเทศ เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรป นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการลักลอบเลียงกัญชาจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมายังกรุงเทพฯ ส่งไปต่างประเทศ โดยทางเรือหรือส่งลงทางใต้ไปยังประเทศมาเลเซีย และต่อไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ญี่ปุ่น อเมริกา และประเทศในยุโรป บางประเทศ


  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ผลกระทบของปัญหา

(ขอบเขต,แนวโน้มและความรุนแรง)


        ปัจจุบันสถานการณ์ความรุนแรงของยาเสพติดในพื้นที่ต่างๆเรียกได้ว่าเข้าขั้นวิกฤติ จะเห็นได้จากการจับกุมในแต่ละครั้งทั้งจำนวนและวิธีการในการกระทำผิด ทำให้เกิดผลกระทบทั้งทางด้านเศษฐกิจและสังคมเป็นอย่ามากและอาจเป็นผลให้นำมาซึ่งการกระทำความผิดเกี่ยวเนื่องกับความผิดอื่นๆอันทำให้เกิดผลเสียกับทั้งชีวิตและทรัพย์สินของผู้คน


       ***ในบางครั้งอาจมีความเกี่ยงพันกับเราอาจจะทั้งตั้งใจและไม่ตั้งใจ เราจึงมีความจำเป็นในที่จะต้องมีข้อมูลความรู้และความเข้าใจถึงความเสียหายหรือผลกระทบที่จะเกิดขึ้น โทษตามกฏหมายสำหรับคดียาเสพติดนั้นมีความรุนแรงมาสูงสุดอาจถึงขั้นประหารชีวิดสำหรับค้าหรือผู้จำหน่าย



      ***จากข้อมูลการศึกษาของหลายหน่วยงานพบว่ามีการพัฒนาการของการะบวนการยาเสพติดอย่างต่อเนื่องเช่น พบว่าเด็กและเยาวชนถูกใช้เป็นเครื่องมือในการกระจ่ายยาเสพติดจากผู้ค้าไปยังผู้เสพมากขึ้นเมื้องจากสามารถรอดพ้นจากสายตาเจ้าหน้าที่ไปได้ รวมถึงผู้เสพเดิมหันมาเป็นผู้จำหน่ายและเสพมากขึ้น เพราะสามารถหาเงินได้ง่ายและมียาไว้เพื่อเสพโดยไม่ต้องหาซื้อ



       ***มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่เราทุกคนควรมีส่วนร่วมกันในการดูแลให้คำแนะนำกับน้องๆลูกหลานเยาวชนในชุมชนให้ตระหนักถึงผลกระทบหรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจากยาเสพติด

ขั้นตอนเบื้องต้นเมื่อถูกจับคดียาเสพติด 



      ***สำหรับคดียาเสพติดนั้นจะประกอบด้วยข้อหาหรือฐานความผิดหลายข้อหา นอกจากนั้นยังมีความแตกต่างกันในด้านประเภทของยาเสพติด ในเบื้องต้นเรามาดูเรื่องของยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า,ยาไอซ์,เฮโลอินฯลฯ)



สำหรับในข้อหา 2 ฐานแรก

      1.ข้อหาเป็นผู้เสพ
 (ยาบ้า)ในเบื้องต้นเมื่อมีการจับกุมผู้กระทำความผิดฐานเป็นผู้เสพ จากผลตรวจทางวิทยาศาสตร์(ฉี่ม่วง) จากนั้นพนักงานสอบสวน จะนำตัวผู้กระทำความผิดส่งศาลเพื่อพิจารณา เมื่อศาลรับตัวผู้ต้องหาแล้วจะสั่งให้ส่งตัวผู้ต้องหา ไปยังสำนักงานคุมประพฤติประจำศาลเพื่อดำเนินการส่งตัวเข้าสถานพินิจฯ ญาติหรือผู้มีสิทธิขอปล่อยตัวชั่วคราว (ประกันตัว) จะสามารยื่นคำร้องต่อเจ้าพนักงานคุมประพฤติพร้อมเงินวางประกัน 10,000.-บาท(หนึ่งหมื่นบาทถ้วน)และเอกสารประกอบการยื่นเช่น กรณีมารดาเป็นผู้ยื่น
     1.สำเนาทะเบียนบ้านผู้ยื่น,สำเนาทะเบียนบ้านคู่สมรส,สำเนาทะเบียนบ้านผู้ต้องหา(กรณีอาศัยอยู่กับพ่อแม่) หากไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่เช่นเช่าหอพักหรือตามบ้านเช่า - ต้องนำสำเนาทะเบียนบ้านเจ้าบ้านหรือผู้ดูแลหอพักมาด้วย
     2.สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนบิดา,มารดา,ผู้ต้องหา ของบ้านเจ้าบ้านหรือผู้ดูแลหอพักมาด้วย
     3.สำเนาทะเบียนสมรส
     4.หนังสือยินยอมของบิดาในกรณีมารดาเป็นผู้ยื่นเพื่อยินยอมให้วางเงินประกัน
     5.หนังสือยินยอมของบ้านเจ้าบ้านหรือผู้ดูแลหอพักกรณีไม่ได้อาศัยอยู่กับพ่อแม่เช่นเช่าหอพักหรือตามบ้านเช่า
     6.ใบเปลี่ยนชื่อบิดา,มารดา,ผู้ต้องหา(ถ้ามี)
     7.เงินสด 10,000.-บาท
โดยที่สำนักงานคุมประพฤติจะมีแบบฟอร์มให้เรากรอก จากนั้นเมื่อเจ้าพนักงานฯอนุญาตให้ปล่อยและจะกำหนดเงื่อนไขให้มารายงานตัวต่อเจ้าพนักงานคุมประพฤติตามกำหนด ซึ่งต้องปฏิบัติตามหากไม่รายงานตัวตามกำหนดเจ้าพนักงานคุมประพฤติจะรายงานศาลออกหมายจับ ! หากมีเหตุฉุกเฉินไม่สามารถมารายงานตัวตามกำหนดได้เช่นเกิดอุบัติเหตุฯลฯ ก็ให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองแจ้งเหตุขัดข้องหรือรายงานตัวแทนได้   
    เนื่องจากตามกฏหมายฟื้นฟูผู้เสพยาฯ ให้ถือว่าผู้เสพเป็นผู้ป่วยที่ต้องบำบัด ยังไม่ถือว่าเป็นจำเลย
       2. ข้อหามียาเสพติดไว้ในครอบครองเพื่อเสพ มีเงื่อนไขเหมือนกันกับข้อหาแรก
ส่วนในข้อหาอื่นๆจะมีโทษหนักขึ้น การอนุญาตให้ประกันตัวอยู่ที่ดุลพินิจของศาล แต่โดยส่วนใหญ่หากมีจำนวนมากศาลจะไม่อนุญาตให้ประกันตัวอีกทั้งหากมีการกระทำความผิดจริงโอกาสต่อสู้คดีหลุดยาก!



  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ผู้รับผลกระทบ


ยาเสพติดเป็นปัญหาที่  เป็นภัยคุกคาม  กัดกร่อน  บ่อนทำลาย”  ประเทศไทยส่งผลกระทบอย่างกว้างขวางทั้งต่อปัจเจกบุคคล  และสังคมส่วนรวมในมิติต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
ผลกระทบต่อตัวบุคคล ยาเสพติดทุกชนิด จะมีผลกระทบโดยตรงต่อร่างกายและจิตใจ โดยเฉพาะด้านบุคลิกภาพและสุขภาพอนมัย ความเสียหายทั้งชีวิตและทรัพย์สิน
ผลกระทบต่อครอบครัว ชุมชนและสังคม ครอบครัวที่มีผู้ติดยา มักได้รับความเดือดร้อนจากผู้ติดยาในทุกด้าน นำไปสู่ความยุ่งยาก ขัดแย้ง แตกแยก และสิ้นเปลืองในการแก้ปัญหา ผู้ติดยามักก่อให้เกิดอาชญากรรมต่อเนื่อง ตั้งแต่การเข้าไปเกี่ยวข้องกับแหล่งอยายมุข การลักเล็กขโมยน้อย การประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สิน การพนันและอาชญากรรมต่าง ๆ สำหรับผู้ค้าและหรือผู้เสพซึ่งเป็นหัวหน้าครอบครัว เมื่อถูกจับกุมและดำเนินการทางกฎหมาย จะส่งผลกระทบให้สมาชิกภายในครอบครัวได้รับความเดือดร้อนในการดำรงชีวิตทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กและเยาวชนที่อยู่ภายใต้การปกครองจะต้องออกจากโรงเรียน ซึ่งเป็นการทำลายอนาคตของประเทศชาติ  
ผลกระทบต่อการบริหารจัดการภาครัฐ คดียาเสพติดที่เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็นภาระต่องานด้านกระบวนการยุติธรรมทั้งระบบ ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาระค่าใช้จ่ายของรัฐที่เพิ่มสูง และทำให้การดำเนินคดีด้านอื่น ๆ เกิดความล่าช้า นอกจากนี้ ปัญหายาเสพติดได้ก่อให้เกิดการทุจริต คอรัปชั่น โดยเฉพาะการทุจริตต่อหน้าที่ การรับสินบน การกลั่นแกล้งรีดไถ แสวงหาผลประโยชน์จากผู้กระทำความผิดซึ่งทำให้ประชาชนและสังคมเกิดความไม่ศรัทธาและเชื่อมั่นในการทำงานของเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ผลกระทบต่อเศรษฐกิจและการคลังของประเทศ  การผลิตและการค้ายาเสพติด จัดเป็นกลุ่มธุรกิจ และเศรษฐกิจนอกกฎหมายที่ไม่ก่อให้เกิดการผลิต แม้ว่าการค้ายาเสพติดบางส่วนจะก่อให้เกิดมูลค่าเพิ่มและสร้างรายได้เมื่อมีการค้าขาย แต่ก็เป็นรายได้สำหรับคนบางกลุ่มที่กระทำผิดกฎหมายและเอารัดเอาเปรียบสังคม  ปัญหายาเสพติดทำให้รัฐบาลต้องทุ่มเทงบประมาณจำนวนมาก เพื่อใช้ในการป้องกัน ปราบปราม บำบัดรักษาและฟื้นฟู แทนที่จะนำไปใช้ในการด้านอื่นๆ ที่มีความจำเป็น ต้องสูญเสียทรัพยากรในการป้องกันและแก้ไขปัญหาโดยไม่จำเป็น รวมทั้งกระทบต่อทรัพยากรมนุษย์ เพราะยาเสพติดมีส่วนทำลายพัฒนาการทั้งด้านร่างกาย จิตใจ และสมองของเด็กและเยาวชน และแรงงานที่จะเป็นพลังของประเทศไทยในอนาคต
ผลกระทบต่อความมั่นคงและชื่อเสียงของประเทศ สาเหตุเนื่องจากปัญหายาเสพติดได้ส่งผลต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคมและการเมือง ทั้งภายในและภายนอกประเทศ โดยเฉพาะความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศเพื่อบ้าน ซึ่งเป็นที่ตั้งของแหล่งผลิตยาเสพติด การแพร่ระบาดของยาเสพติด จะก่อให้เกิดความเสื่อมเสียชื่อเสียงและเกียรติภูมิของประเทศไทยไม่เป็นที่ไว้วางใจของนานาชาติในด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ทำให้ไม่กล้าเข้ามาท่องเที่ยวหรือลงทุนทางการค้า และธุรกิจต่างๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทำให้ประเทศคู่แข่งฉวยโอกาสในการโจมตีประเทศไทย
มาตรการสำคัญในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด สิ่งแรกที่ควรให้ความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง คือ บทบาทของสถาบันทางสังคมไทยในระดับรากหญ้า ซึ่งประกอบด้วย สถาบันครอบครัว สถาบันชุมชน สถาบันโรงเรียน และสถาบันศาสนา เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหา
               ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาระดับชาติ ดังนั้นการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดจึงมิใช่หน้าที่ของใครคนใดคนหนึ่ง หรือองค์การใดองค์กรหนึ่ง แต่หากเป็นหน้าที่ของทุกคนในชาติที่จะต้องร่วมมือ ร่วมใจกันป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด โดยมีเป้าหมายร่วมกัน คือ การขจัดยาเสพติดให้หมดไปจากแผ่นดินไทยก่อนที่ชาติไทยจะตกเป็นทาสของ ยาเสพติด


  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS

ข้อเสนอแนะในการลดความรุนแรงของปัญหา

        สิ่งที่จะเป็นตัวลดปัญหาความรุนแรงของปัญหานั้น เราจะต้องแก้ไขที่ตัวต้นเหตุ คือ


1. ป้องกันตนเอง ทำได้โดย..
• ศึกษาหาความรู้ เพื่อให้รู้เท่าทันโทษพิษภัยของยาเสพติด
• ไม่ทดลองใช้ยาเสพติดทุกชนิดและปฏิเสธเมื่อถูกชักชวน
• ระมัดระวังเรื่องการใช้ยา เพราะยาบางชนิดอาจทาให้เสพติดได้
• ใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์
• เลือกคบเพื่อนดี ที่ชักชวนกันไปในทางสร้างสรรค์
• เมื่อมีปัญหาชีวิต ควรหาหนทางแก้ไขที่ไม่ข้องเกี่ยวกับยาเสพติดหากแก้ไขไม่ได้ควรปรึกษาผู้ใหญ่

2. ป้องกันครอบครัว ทำได้โดย
• สร้างความรัก ความอบอุ่นและความสัมพันธ์อันดีระหว่างสมาชิกในครอบครัว
• รู้และปฏิบัติตามบทบาทหน้าที่ของตนเอง
• ดูแลสมาชิกในครอบครัว ไม่ให้ข้องเกี่ยวกับยาเสพติด
• ให้กาลังใจและหาทางแก้ไข หากพบว่าสมาชิกในครอบครัวติดยาเสพติด

3. ป้องกันชุมชน ทำได้โดย
• ช่วยชุมชนในการต่อต้านยาเสพติด
• เมื่อทราบแหล่งเสพ แหล่งค้า หรือผลิตยาเสพติด ควรแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบทันที ที่... 
• สานักงาน ป..โทร. 02-2459414 หรือ 02-2470901-19 ต่อ 258 โทรสาร 02-2468526
• ศูนย์รับแจ้งข่าวยาเสพติด สานักงานตารวจแห่งชาติ โทร. 1688

  • Digg
  • Del.icio.us
  • StumbleUpon
  • Reddit
  • RSS