สถานการณ์การลักลอบนำเข้ายาเสพติด
“พื้นที่หลักในการลักลอบนำเข้ายาเสพติดยังคงอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคเหนือ” พื้นที่นำเข้ายาเสพติด
ชายแดนภาคเหนือยังคงเป็นพื้นที่ที่มีสัดส่วนการลักลอบนำเข้ายาเสพติดสูงที่สุดปรา
กฏว่าช่วงนี้มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดที่สำคัญ คือ ยาบ้า และไอซ์ ในขณะที่ช่วงที่ผ่านมามีการลักลอบนำเข้าหลากหลายตัวยามากกว่า โดยยาบ้าที่ลักลอบนำเข้าชายแดนภาคเหนือสูงถึงร้อยละ 98.0 ของทั้งประเทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายน
ที่มีการลักลอบนำเข้ายาบ้าเพียงร้อยละ 24.8 ของทั้งประเทศ
โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้ายาบ้าในพื้นที่ 3 จชน. สูงถึงร้อยละ
97.9 ของทั้งประเทศ
และนำเข้าไอซ์ทางชายแดนภาคเหนือ สูงถึงร้อยละ 64.0 ชายแดนภาคเหนือสูงถึงร้อยละ 98.0 ของทั้งประ
เทศ เพิ่มขึ้นจากเดือนเมษายนที่มีการลักลอบนำเข้ายาบ้าเพียงร้อยละ 24.8
ของทั้งประเทศ โดยเฉพาะการลักลอบนำเข้ายาบ้าในพื้นที่ 3
จชน. สูงถึงร้อยละ 97.9 ของทั้งประเทศ และนำเข้าไอซ์ทางชายแดนภาคเหนือสูงถึงร้อยละ 64.0
พื้นที่ที่มีการลักลอบนำเข้ายาเสพติดในช่วงนี้
ได้แก่ จ.เชียงราย (อ.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่สาย)
จ.เชียงใหม่ (อ.ฝาง)
จ.แม่ฮ่องสอน (อ.เมือง) จ.ตาก (อ.แม่สอด) จ.นครพนม (อ.ธาตุพนม
อ.บ้านแพง) จ.เลย
อ.บ้านแพง) จ.เลย
(อ.เชียงคาน) จ.ภูเก็ต
(อ.ถลาง) จ.สงขลา
(อ.สะเดา) และท่าอากาศ
ยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทร
ปราการ ซึ่งส่วนใหญ จะเป็นพื้นที่เดิม ยกเว้น จ.ภูเก็ต (อ.ถลาง) และ จ.สงขลา (อ.สะเดา)
นอกจากพื้นที่ชายแดนที่มีการจับกุม การลักลอบนำเข้ายาเสพติดแล้วยังมีพื้นที่ชายแดนภาคเหนือที่มีการข่าวระบุว่า มีการติดต่อระหว่างนักค้าชาวไทยกับนักค้าประเทศเพื่อนบ้านในการซื้อขายและ ลักลอบนำเข้ายาเสพติดคือ พื้นที่ อ.บ้านโคก จ.อุตรดิตถ์ และ อ.สองแคว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.น่าน ซึ่งทั้ง 2 พื้นที่
ที่ผ่านมาไม่ค่อยปรากฏข่าวการจับกุม
“ยาเสพติดที่มีการลักลอบนำเข้ามีปริมาณเพิ่มขึ้น”
เมื่อเปรียบเทียบปริมาณการนำเข้าในช่วงนี้กับช่วงเวลาที่ผ่านมาพบว่า
ยาบ้า กัญชา พืชกระท่อม และไอซ์
มีปริมาณการนำเข้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยปริมาณของยาบ้ามีจำนวน 1,085,678 เม็ด เพิ่มขึ้นจากช่วงเดือนเมษายน ที่มีจำนวน 201,446 เม็ดหรือเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่า กัญชามีจำนวน 630
ก.ก. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีจำนวน 410
ก.ก. พืชกระท่อมจำนวน 110 ก.ก. ซึ่งในช่วง 2
เดือนที่ผ่านมาไม่มีการนำเข้าและไอซ์ จำนวน 39.1 ก.ก. เพิ่มขึ้นจากเดิมที่มีจำนวน 9.4 ก.ก.
- ยาบ้า มีการลักลอบนำเข้าในพื้นที่ อ.แม่สาย
อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ อ.เมือง
จ.แม่ฮ่องสอน อ.แม่สอด จ.ตาก อ.บ้านแพง จ.นครพนม และ จ.เลย
ซึ่งพื้นที่ที่มีการลักลอบนำเข้าในช่วงนี้จะเหมือนกับช่วงเวลาที่ผ่านมา
- กัญชา นำเข้าที่ อ.ธาตุพนม จ.นครพนม และ
อ.เชียงคาน จ.เลย ซึ่งในช่วงผ่านมาไม่มีการ
นำเข้ากัญชาในพื้นที่
จ.เลย
- ยางกัญชา
นำเข้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
- ไอซ์ นำเข้าที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย
และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จ.สมุทรปราการ
- กระท่อม นำเข้าที่ อ.สะเดา จ.สงขลา
โดยเฉพาะที่ด่านสะเดา และด่านปาดังเบซาร์
- โคเคน
นำเข้าที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต จ.ภูเก็ต
ในช่วงที่รัฐบาลไทยได้มีนโยบายปราบปรามยาเสพติด ตามแผนปฏิบัติการเร่งรัด 3 เดือน มีผลทำให้ผู้ค้าและขบวนการลำเลียงบางพื้นที่หยุดเคลื่อนไหวลงชั่วคราว แต่ในปัจจุบันสถานการณ์ยาเสพติด เริ่มกลับมาเคลื่อนไหวเช่นเดิมประกอบกับกลุ่มผลิตยาเสพติดในประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะกลุ่มว้าพยายามที่จะเร่งระบายยาเสพติดให้ได้มากที่สุด ก่อนที่จะมีการเลือกตั้ง เพราะไม่แน่ใจในนโยบายของรัฐบาลใหม่ จึงทำให้ปริมาณยาเสพติดที่ลักลอบนำเข้ามีปริมาณเพิ่มขึ้น
นอกจากการลักลอบนำเข้ายาเสพติดทางพื้นที่ชายแดนแล้ว ยังพบการนำเข้าที่ท่าอากาศยานทั้งท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยที่มีการนำเข้าที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจำนวน 7 ครั้ง เพิ่มขึ้นจากช่วงที่ผ่านมาคือเดือนมีนาคม 3 ครั้งและเมษายน 5 ครั้ง
กลุ่มชาวต่างชาติที่ลักลอบนำเข้าที่สำคัญ ได้แก่
เ ค รือ ข่า ย นัก ค้า ช า วอิหร่าน จากการดำเนินการอย่างเข้มงวดของเจ้าหน้าที่ในช่วปลาย ปีที่ผ่านมาทำให้ช่วง 3 เดือนแรกของปี 2554 ไม่ปรากฏการจับกุมผู้ต้องหาชาวอิหร่านที่ลักลอบนำเข้ายาเสพติด
จนกระทั่งเดือนเมษายนจึงเริ่มปรากฏการจับกุมอีกครั้งหนึ่ง
ในเดือนพฤษภาคมมีการจับกุมชาวอิหร่านลักลอบนำเข้าไอซ์ จำนวน 5 คดี ซึ่งนักค้าชาวอิหร่านดังกล่าวจะเดินทางมาจากตะวันออกกลาง คือประเทศกาตาร์ คูเวต และซีเรีย โดยลักษณะการซุกซ่อนจะมีการบรรจุในซองพลาสติกแบบฟองน้ำ แล้วพันทับด้วยกระดาษคาร์บอน
โดยจะซุกซ่อนมาพร้อมกับกระเป๋าสะพายหลัง

ซึ่งมีปริมาณของกลางเฉลี่ย
2.79 ก.ก./คดีกรณีการจับกุมเมื่อวันที่ 21
พฤษภาคม 2554 จับกุมนักค้าชาวอิหร่าน 2
คน ซึ่งเดินทางมาจากประเทศซีเรีย ของกลางไอซ์ 1,210 กรัมและ 2,660 กรัม โดยทั้ง 2 รายของกลางซุกซ่อนในกระเป๋าเดินทาง
เครือข่ายนักค้าชาวเนปาล ลักลอบนำเข้ายางกัญชา 8 ก.ก. เดินทางมาจากเมืองกัลกัตตาประเทศอินเดียและจะต่อเครื่องจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต โดยซุกซ่อนของกลางในกระเป๋าสัมภาระที่ช่องลับบริเวณพื้นและฝากระเป๋าโดยการลักลอบนำเข้ายางกัญชา ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะเป็นชาวเนปาลพื้นที่ปลายทางเท่าที่ได้ข้อมูลจากผู้ต้องหาจะเป็นพื้นที่แหล่งท่องเที่ยว
เช่น เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานีเครือข่ายนักค้าชาวเปรู ลักลอบนำเข้าโคเคน 1,180 กรัม เดินทางมาจากเมืองเซาเปาโลประเทศบราซิล วีธีการลักลอบนำเข้าคือกลืนโคเคนลงท้องซึ่งเป็นครั้งแรกที่มีการจับกุมนักค้าชาวเปรูที่ลักลอบนำเข้าโคเคน นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา
ส่วนการนำเข้าที่ท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต
มีการจับกุม 2 ครั้ง
โดยเป็นนักค้ายาเสพติด
เครือข่ายอเมริกาใต้
ลักลอบขนโคเคน เดินทางมาจากประเทศแถบอเมริกาใต้ ซึ่งปริมาณของกลางมีจำนวนมาก เช่นกรณีวันที่ 9 พฤษภาคม 2554 จับกุมชาวสวิตเซอร์แลนด์ เดินทางมาจากประเทศโบลิเวียลักลอบนำเข้าโคเคน
4 ก.ก.โดยซุกซ่อนอยู่ในขอบกระเป๋าเดินทาง และกรณีวันที่ 10 พฤษภาคม 2554 ชปส.สภ.เมืองภูเก็ต จับกุมหญิงไทย 1 คน
ลักลอบขนโคเคน 2 ก.ก. เดินทางมาจากประเทศบราซิลโดยซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าผ้าซึ่งซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าเดินทาง ซึ่งจากการสอบสวนผู้ต้องหาได้ให้การรับสารภาพว่าได้รับการว่าจ้างจากนายไมค์เพื่อนชาวต่างชาติ ผิวดำ ซึ่งรู้จักกันมาประมาณ 5-6 เดือน
ให้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศบราซิล โดยนายไมค์ เป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในการเดินทางให้ทั้งหมด วันเดินทางกลับผู้ต้องหาได้เดินทางไปยังสนามบินเซาเปาโล โดยไม่มีการนำกระเป๋าเสื้อผ้าติดตัวไป เมื่อไปถึงสนามบินมีเพื่อนของนายไมค์ มาพบมอบตั๋วเครื่องบินและกระเป๋าเดินทางให้
ประเทศไทยประสบกับปัญหายาเสพติดทั้งในด้านการเป็นพื้นที่ผลิต
การเป็นพื้นที่การค้า การเป็นพื้นที่แพร่ระบาด และการเป็นทางผ่านยาเสพติด
โดยมีตัวยาหลักที่ประสบปัญหาคือ ฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยาบ้า สารระเหย โคเคน
เอ็คซ์ตาซี่ และสารเสพติดประเภทวัตถุออกฤทธิ์บางชนิด ยกตัวอย่างเช่น
เนื่องจากประเทศไทย มีส่วนที่ติดกับพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตยาเสพติดที่สำคัญของโลกแห่งหนึ่ง
จึงทำให้ไทยมีส่วนในการผลิตยาเสพติดประเภทฝิ่น และเฮโรอีน ซึ่งผลิตมากในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ นอกจากนั้นแล้ว ในปัจจุบันยังมีการผลิตยาบ้าในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำด้วย ยาเสพติดที่มีการผลิตในประเทศไทยอีกชนิดหนึ่ง คือ
กัญชา ซึ่งมีมากในภาคอีสาน อย่างไรก็ตาม สำหรับการเป็นแหล่งผลิตของประเทศไทยนั้นในปัจจุบันได้ลดปริมาณลงอย่างมาก โดยเฉพาะฝิ่น เฮโรอีน และกัญชาจนอยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ ในส่วนของการผลิตยาบ้าได้มีการย้ายแหล่งผลิตไปอยู่ในประเทศเพื่อนบ้านเป็นส่วนใหญ่
ประเทศไทยมีการค้ายาเสพติดที่สำคัญ 3 ชนิด คือ การค้าเฮโรอีน การค้ากัญชา การค้ายาบ้า
- การค้าเฮโรอีน กระจายอยู่บริเวณพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทย
บริเวณที่ติดกับสามเหลี่ยมทองคำ พื้นที่ กทม. ภาคใต้ และข่ายงานต่างประเทศ
ซึ่งเชื่อมโยงกับข่ายงานภายในประเทศ รวมทั้งชนกลุ่มน้อยในพื้นที่สามเหลี่ยมทองคำ
เฮโรอีนส่วนใหญ่ จะถูกลำเลียงไปยังต่างประเทศ
แต่บางส่วนจำหน่ายในตลาดภายในประเทศไทย ในปัจจุบัน เครือข่ายการค้าเฮโรอีน
ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและทำลายลงได้หลายเครือข่าย บางกลุ่มหยุดดำเนินการ
บางกลุ่มไปค้ายาบ้าแทน
- การค้ากัญชา อยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
กทม. ภาคใต้พื้นที่ดำเนินการส่วนใหญ่อยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กัญชาที่รวบรวมได้จะส่งออกไปต่างประเทศเป็นหลักปัจจุบันกล่าวได้ว่าการค้ากัญชาลดน้อยลงมาก
กลุ่มผู้ค้าจะไปดำเนินการในประเทศเพื่อนบ้าน
การค้าในประเทศส่วนใหญ่เพื่อใช้เสพภายในประเทศ
- การค้ายาบ้า ยาบ้าได้แพร่กระจายอยู่ในทุกภูมิภาค
ผู้ค้ามีกระจายอยู่ในพื้นที่ต่างๆตั้งแต่ระดับรายใหญ่ ระดับกลางและระดับย่อยในพื้นที่แพร่ระบาด เครือข่ายการค้ายาบ้า
ไม่มีการจัดองค์กรที่ชัดเจนเหมือนกับเฮโรอีนและกัญชา แม้แต่นักค้ารายย่อยบางครั้งก็สามารถไปจัดหายาเสพติดจากพื้นที่ผลิต
บริเวณสามเหลี่ยมทองคำครั้งละเป็นปริมาณมากได้
ยาเสพติดที่แพร่ระบาดในประเทศไทย ประกอบด้วย ฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยาบ้า สารระเหย โคเคน ยาอี และวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตประสาทบางชนิด เช่น จำพวกยานอนหลับอย่างไรก็ตาม กล่าวสำหรับการแพร่ระบาดแล้ว ตัวยาหลักคือ ฝิ่น เฮโรอีน กัญชา ยาบ้า สารระเหย โคเคน เอ็คซ์ตาซี่ ยาเค โดยฝิ่นและเฮโรอีน เคยเป็นยาเสพติดที่แพร่ระบาดรุนแรงในอดีต แต่ปัจจุบันลดระดับลง ฝิ่นคงมีแพร่ระบาดเฉพาะกลุ่มชาวเขา เฮโรอีนแพร่ระบาดในกลุ่มเสพเดิม ตัวยาที่แพร่ระบาดมาก และมีปัญหาในระดับรุนแรง คือ
ยาบ้า ซึ่งแพร่กระจายเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชน นักเรียนนักศึกษา
สำหรับโคเคน เอ็คซ์ตาซี่ และยาเค การแพร่ระบาดจำกัดอยู่เฉพาะกลุ่มเยาวชน ผู้ใช้ในสถานบันเทิง และกลุ่มวัยรุ่มที่ฐานะดี ส่วนสารระเหย จะแพร่ระบาดในกลุ่มเด็กนอกสถานศึกษา ส่วนใหญ่จะอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
การที่ประเทศไทยมีส่วนที่ติดกับสามเหลี่ยมทองคำ
และการคมนาคมภายในประเทศมีความสะดวก โดยเฉพาะการขนส่งทางบกและทางอากาศจึงมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติด ทั้งที่ภายในประเทศและไปต่างประเทศ โดยเฉพาะการลักลอบลำเลียงเฮโรอีนไปต่างประเทศ เช่น อเมริกา ออสเตรเลีย และยุโรป นอกจากนั้นแล้ว ยังมีการลักลอบเลียงกัญชาจากทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือมายังกรุงเทพฯ ส่งไปต่างประเทศ โดยทางเรือหรือส่งลงทางใต้ไปยังประเทศมาเลเซีย และต่อไปยังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
ญี่ปุ่น อเมริกา และประเทศในยุโรป บางประเทศ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น